อาชญากรรม

รวบพ่อโหด ฆ่าปาดคอลูกชายในใส้ ยัดกระสอบฝังดินหมกป่ายาง หวังอำพรางคดี ปม หึงหวงลูกสะใภ้

ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ทำการจับกุม นายอรุณ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ จ.270/2563 ลงวันที่ 23 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2563 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่น, ลอบฝัง, ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย”

จากกรณี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบซากโครงกระดูกถูกคลุมด้วยกระสอบปุ๋ย ถูกฝังดินไว้ที่ป่าควนขี้เก้ง ม.9 ต.นาหม่อม อ.นาหม่อม จ.สงขลา ซึ่งเป็นซากโครงกระดูก มีเสื้อผ้าคลุม และเครื่องประดับต่างๆ โดยถูกมัดใส่กระสอบปุ๋ยในสภาพเน่าเปื่อยเหลือแต่โครงกระดูก ซึ่งเชื่อว่าเสียชีวิตมาเป็นเวลาหลายวัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจาก นางสาวไอซ์ (นามสมมุติ) ว่าโครงกระดูกที่พบ คือแฟนหนุ่มของนางสาวกุ้ง (นามสมมุติ)

ตำรวจกองปราบปราม จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา จนทราบว่าผู้ตายคือเป็นนายชาญชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี เป็นชาว จ.พัทลุง ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.2563 เวลาประมาณ 22.00 น. พร้อมกับรถจักรยานยนต์ โดยนางสาวกุ้ง (แฟนสาว) ให้การว่า ก่อนที่แฟนหนุ่มของตนจะหายไป แฟนหนุ่มของตนไปกรีดยางที่ป่ายางกับนายอรุณฯซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ แต่เมื่อถึงเวลาเลิกงาน แฟนหนุ่มของตนได้หายไป พบแต่เพียงนายอรุณฯ และ นางสาวกุ้งยังให้การเพิ่มเติมอีกว่า นายอรุณฯ (พ่อของผู้ตาย) มักจะกระทำอนาจาร ตนอยู่บ่อยครั้ง โดยบังคับข่มขืนใจในช่วงที่นายชาญชัยฯ (ผู้ตาย) ไม่อยู่บ้าน

และหลังจากที่นายชาญชัย (ผู้ตาย) หายตัวไป นายอรุณฯยังคงทำพฤติกรรมอยู่เช่นเดิม จนกระทั่งตนหนีกลับไปอยู่ที่บ้านญาติ แต่นายอรุณ ก็ยังได้โทรมาบอกตนว่าหากกลับมาอยู่กับนายอรุณฯในฐานะภรรยา นายชาญชัยฯ (ผู้ตาย) จะกลับมาเอง ซึ่งตนไม่ได้หลงเชื่อและไม่ยอมกลับไปตามคำชวนของนายอรุณฯ

จากพยานหลักฐานและคำให้การของพยานต่างๆ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เชิญตัวนายอรุณฯ มาสอบสวน ซึ่งนายอรุณฯ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าตนเองเป็นคนฆ่าบุตรชายและได้ลากศพของนายชาญชัยฯ ลงมาจากป่าสวนยาง ที่เกิดเหตุ แล้วขุดหลุมฝังศพของนายชาญชัยฯ เพื่ออำพราง ตรงบริเวณป่าที่พบศพ จากนั้นได้ทิ้งอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ จอบที่ใช้ขุดหลุมฝังศพ และรถจักรยานยนต์ที่นายชาญชัยฯผู้ตายขับขี่ไปไว้ในป่าบริเวณใกล้กับที่ฝังศพ แล้วจึงหลบหนีกลับมาอยู่ที่บ้านเช่าของตนเอง และบอกกับนางสาวกุ้งฯ ว่านายชาญชัยฯมีปากเสียงกับตนและหนีไปโดยไม่ทราบว่าไปที่ใด

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *