นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประชุมผู้บริหารของกระทรวง ผ่านระบบวิดิโอ คอนเฟอเรนซ์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19
ภายหลังการประชุมนายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า เวลานี้กระทรวงยุติธรรมได้เริ่มให้เจ้าหน้าที่ทำตามแนวนโยบายของรัฐบาล”ทำงานที่บ้าน WORK @ HOME”ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา โดย สามารถลดปริมาณการทำงานได้เป็นจำนวนมาก โดยงานเอกสาร เรามีระบบที่ทันสมัย การประชุมสำคัญก็หันมาใช้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แทนเพื่อป้องกันความเสี่ยงโควิด-19 นอกจากนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและต้องการประสานความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรมยังสามารถรับบริการสายด่วนกระทรวงยุติธรรม 1111 กด 77
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงแนวทาง บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาชั้นบังคับคดี โดยมีมาตรการ6 ด้าน ช่วยเหลือหลังเชื้อ โควิด -19 ระบาด ซึ่งแนวทางการช่วยเหลือได้หารือกับสถาบันการเงินและภาคเอกชนซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา กรณียังไม่มีการตั้งเรื่องบังคับคดีหรือยังไม่มีการตั้งเรื่องนั้นเจ้าหนี้จะชะลอการดำเนินการยึดทรัพย์ไว้ก่อน 3 เดือน เว้นแต่การบังคับคดีใกล้พ้นระยะเวลาการบังคับคดี 10 ปีหรือสืบพบว่าจะมีการจำหน่ายจ่ายโอน จะต้องดำเนินคดีปกติ อีกกรณีคือคดีที่อยู่ระหว่างบังคับคดี รวมถึงการ ขายทอดตลาด โดยเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาให้โอกาสลูกหนี้ตามคำพิพากษาเข้ามาชี้แจงกับเจ้าหนี้เป็นรายคดีไป หากไกล่เกลี่ยสำเร็จเจ้าหนี้จะงดการบังคับคดีและงดการขายทอดตลาด
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่าในส่วนของเจ้าหนี้ที่ระบุถึงคือธนาคารที่เป็นสมาชิกสมาคมธนาคารไทย และสถาบันการเงินต่างๆอาทิ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ บริษัทโตโยต้า ลิสซิ่ง กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ลูกหนี้ที่มีความประสงค์ทำการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกรมบังคับคดีพร้อมให้บริการโดยยื่นคำร้องได้ 2 ช่องทางคือ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หรือยื่นคำร้องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในหน้าเว็บไซต์ของกรมบังคับคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุดศูนย์โควิด-19 ของรัฐบาล แถลงข่าวพบนักโทษ ติดเชื้อ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เพียงสั้นๆว่าให้กรมราชทัณฑ์เป็นผู้ชี้แจง ตนไม่อยากให้ข้อมูล เกรงจะเกอดความคลาดเคลื่อนและทำให้ตกใจกันหมด
