ครอบครัวของ นางสาวนรีกานต์ ยาวิราช หรือ น้องหญิง เข้าพบ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอบคุณที่ช่วยคลี่คลายคดีจนสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง และนำไปสู่การจับกุมคนร้ายในคดีนี้ได้ในที่สุด
นายสุบิน ยาวิราช บิดาญาติ กล่าวขอบคุณที่พลตำรวจเอกศรีวราห์ ช่วยติดตามคดีนี้จนมีความชัดเจน จากคดีอุบัติหตุธรรมดาจนกลายเป็นคดีฆาตกรรม เชื่อว่าบุตรสาวตายตาหลับ หลังจากได้รับความเป็นธรรม โดยครอบครัวได้กำหนดพิธีฌาปนกิจศพน้องหญิงในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ที่วัดเกิดการอุดม อ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยืนยันเป็นหน้าที่ตำรวจพิสูจน์ทราบคดีให้ความจริงปรากฎ พร้อมระบุมีหลักฐานเอาผิด แม้ไม่พบดีเอ็นเอ ผู้ต้องหาที่ศพของน้องหญิง พร้อมระบุว่า พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ เนื่องจากสำนวนชันสูตรขิง พนง.ส.สภ.เมืองปทุมธานี เสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นแล้ว ส่วนสำนวนฆาตกรรม ของ สภ.บางปะอิน คืบหน้าไปแล้ว 90 เปอร์เซ็น
ด้านนายอัจฉะริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปธ.ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องขอให้ตำรวจพิสูจน์คันเกียร์ของรถเทลเลอร์ เนื่องจากสงสัยน้องหญิง ถูกผู้ต้องหาจับศรีษะโขกกับคันเกียร์จนเสียชีวิต พร้อมขอบคุณที่ตำรวจทำคดีคืบหน้าร้อยละ 95 ส่วนประเด็นเงินสินบน 3 แสนบาท เพื่อจ่ายล้มให้เป็นคดีอุบัติเหตุโดนรถเทลเลอร์ นายอัจฉะริยะ ระบุ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม สอบปากคำพยานปากเอก 3 คน ที่ได้ยินบิดานายอ๊อฟ มาพูดคุยเรื่องจากจ่ายเงินแล้ว โดย 2 ปาก ได้ยินเองกับหู อีก 1 ปาก ได้รับฟังการบอกเล่าต่อจาดพยาน 2 ปากแรก มั่นใจชุดกองปราบให้ความเป็นธรรมครอบครัวน้องหญิง และดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ประพฤติมิชอบได้
สำหรับคดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา น้องหญิงไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนจะเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา เนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกและสมองบวม โดย นายสุรพล ดาราคำ หรือ อ๊อฟ อายุ 23 ปี คนขับรถเทรลเล่อร์ที่ขับรถไปส่งน้องหญิง อ้างว่าน้องหญิงได้กระโดดลงจากรถเทรลเลอร์ไปเอง แต่ผลชันสูตรเบื้องต้นจากแพทย์ระบุว่า ถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ท้ายทอย ค่อมาตำรวจจะออกหมายจับนายสุรพล และน.ส.เป็ด เนื่องจากนั้นคดีพลิกเป็นคดีฆาตกรรม
