พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันวันที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 09:30 น.พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรพล อยู่นุช ที่ปรึกษาพิเศษ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ตรวจความพร้อมรถเคลื่อนที่ตรวจโควิด-19 เชิงรุกคันแรก เพื่อเป็นการนำร่องโครงการ ตรวจเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ที่สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชยเขต 1-2 เนื่องด้วยปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงและมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้าง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าวข้างต้น โดยสั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกสำหรับข้าราชการตำรวจ และครอบครัวทั่วประเทศ และได้จัดสรรชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ให้กับทุกหน่วยครบตามจำนวนที่ร้องขอ
โดยให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงได้จัดทำโครงการตรวจเชื้อโควิด-19 โดยรถเคลื่อนที่ขึ้น โดยรถยนต์หนึ่งคันมีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 4 นาย แบ่งเป็น เจ้าหน้าที่ตรวจหาเชื้อ 2 นาย เจ้าหน้าที่ลงทะเบียน 1 นาย และพลขับอีก 1 นาย สำหรับใช้ในพื้นที่สถานีตำรวจ บ้านพักข้าราชการตำรวจ และแหล่งชุมชนในพื้นที่ ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งข้าราชการตำรวจ ครอบครัวและประชาชนในชุมชน จะได้รับการตรวจหาเชื้ออย่างต่อเนื่องตามวงรอบ หรือตามที่มีอาการ อีกทั้งสามารถเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที และลดการเจ็บป่วยอาการหนักหรือเสียชีวิต และคาดว่า ข้าราชการตำรวจและครอบครัว จะมีการติดเชื้อในอัตราที่ลดลงโดยรถตรวจเคลื่อนที่นี้ จะเข้าไปตรวจถึงที่สถานีตำรวจ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อข้าราชการตำรวจและครอบครัวรวมถึงประชาชนที่อยู่ในชุมชนได้เข้าถึงการตรวจแบบทั่วถึง ไม่ต้องเดินทางไกล นับว่าเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่มารับบริการของสถานีตำรวจสำหรับรถตรวจเชื้อโควิค-19 เชิงรุกเคลื่อนที่นี้ มีทั้งหมด 10 คัน ซึ่งจะนำมาใช้ในการตรวจเชิงรุก ตามสถานีตำรวจในกรุงเทพฯและปริมณฑล สำหรับการนำร่องในครั้งนี้ ที่สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย 1-2 มี ข้าราชการตำรวจ ครอบครัวตำรวจ และประชาชนในพื้นที่ มาร่วมตรวจรวมจำนวน 120 คน
โดยแบ่งเป็นตำรวจจำนวน 60 คน ครอบครัวตำรวจจำนวน 20 คน ประชาชนจำนวน 40 คน โดย ข้าราชการตำรวจและครอบครัวตำรวจที่มีผลเป็นบวก จะถูกจัดส่งไปตรวจ RT-PCR ที่โรงพยาบาลตำรวจ และรอผลเพื่อคัดแยกความรุนแรงของโรค โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ จะทำการเอกซเรย์ปอด จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ ให้ผู้ป่วยกลับบ้าน ขณะรอผลตรวจ ซึ่งจะออกภายใน 24 ชั่วโมงในส่วนของประชาชน มีทางคณะกต.ตร.ของสถานีตำรวจแต่ละพื้นที่และผู้นำชุมชน คอยประสานงานและเพื่อนำเข้าสู่ระบบสาธารณสุข ตามสิทธิ์ของผู้ป่วยต่อไป ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำการตรวจเชิงรุก ทั่วประเทศ โดยมียอดอยู่รวมทั้งหมด 77,378 ราย แยกเป็นข้าราชการตำรวจ จำนวน 66,415 ราย ครอบครัวตำรวจ จำนวน 8,987 ราย และประชาชนทั่วไปจำนวน 1,976 ราย มีการตรวจพบเชื้อทั้งหมด 287 ราย แยกเป็นข้าราชการตำรวจจำนวน 98 ราย ครอบครัวตำรวจ 146 ราย และประชาชนทั่วไป 43 ราย