อาชญากรรม

ป.ป.ส. สรุปผลตรวจสารคล้ายยาเค 1.2 หมื่น กก. ในโกดัง พบเป็นสารเคมี 2 ชนิด ปนเปื้อนของเคตามีนเพียง 1.2

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. พร้อมด้วย ตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมเปิดผลสรุปผลการตรวจพิสูจน์วัตถุของกลางในคดีที่มีการจับยึดวัตถุของกลางบรรจุกระสอบ จำนวน 493 กระสอบ น้ำหนักรวมกว่า 12,000 กิโลกรัมในบริเวณโกดังเก็บของ อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา พบสาร 2 ชนิด คือ สารไตรโซเดียมฟอสเฟต ที่มักใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร จำนวน 481 กระสอบ และสารแคลเซียมคาร์บอเนต ที่สามารถนำมาใช้ได้ในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท จำนวน 12 กระสอบ โดยในจำนวนนี้ พบมีการปนเปื้อนของยาเสพติด ประเภทเคตามีน จำนวน 1.2 กรัม ซึ่งจากจำนวนเคตามีนที่พบนี้ รวมการสืบสวนของตำรวจ ป.ป.ส. และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC ทำให้ พลตำรวจตรีชาตรี ไพศาลศิลป์ ที่ปรึกษากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เชื่อว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาพักไว้ในประเทศไทย เพื่อสับเปลี่ยนเคตามีนกับสารเคมีที่พบ เนื่องจาก มีลักษณะทางกายภาพที่คล้ายคลึงกัน เพื่อใช้ตบตาเจ้าหน้าที่ และสำแดงเป็นเท็จ ก่อนส่งไปจำหน่ายที่ประเทศจีน-ไต้หวัน ซึ่งมีการตรวจยึดล็อตใหญ่ ก่อนสืบสวนกลับมาถึงประเทศไทยได้ก่อนหน้านี้ โดยมีการใช้โกดังในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นสถานที่สับเปลี่ยน ซึ่งถือเป็นวิธีการใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน เพราะการลักลอบส่งออกเคตามีนส่วนใหญ่ที่เคยพบ จะมีการปะปนไปกับพืชผลทางการเกษตรหรือแป้งมากกว่า โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะคดีนี้มีการกระทำผิดทั้งในอาณาจักรและนอกราชอาณาจักร โดยจะมีการหารือกับอัยการสูงสุด ว่าสามารถรวมเป็นคดีเดียวกันได้หรือไม่ หรือแยกดำเนินคดีในส่วนความผิดที่เกิดขึ้นในประเทศกับผู้ที่เกี่ยวข้องไปก่อน

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การพบเคตามีนปนเปื้อนเพียงเล็กน้อย จะเป็นการกลั่นแกล้งผู้ต้องหา นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ยืนยันว่า ไม่มีการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด และยาเสพติดที่พบเกิน 0.5 กรัม สามารถดำเนินคดีฐาน มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ ได้ พร้อมเชื่อว่า การขบวนการนี้ มีการนำสารเคมีมาใช้บังหน้าลักลอบขนส่งยาเสพติด เพราะสารเคมีทั้งสองตัวนี้ มีลักษณะคล้ายเคตามีน นอกจากนี้ จะมีการศึกษา ปรับปรุงตัวทดสอบยาเสพติดอีกครั้งหนึ่ง ตลอดจนแนวโน้มนำสารเคมีตัวอื่นมาปะปนกับยาเสพติด หลังการทดสอบเบื้องต้น พบว่า มีสีม่วง จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *