ตำรวจชุดปฏิบัติการสยบไพรีและตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังเข้าตรวจค้นชุมชนทั้งหมด 9 หมายจับ 26 เป้าหมาย ในพื้นที่ย่านบางบัว เขตหลักสี่ หลังได้รับเเจ้งเบาะเเสจากชาวบ้านว่ามีการเเพร่ระบาดของยาเสพติดจำนวนมาก
โดยพล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด1 พร้อมตำรวจชุดสยบไพรี /สุนัขตำรวจ K9 นำหมายศาลมาเข้าจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย ในชุมชนบางบัว เชิงสะพานไม้1 เขตหลักสี่ พบตัวนางสาววรรณี หรือป้าณี วัย59 ปี รับสารภาพว่า เป็นผู้ค้ายาในพื้นที่ดังกล่าวจริง โดยจะรับยาไอซ์เเละยาบ้ามาเเบ่งขายให้กลุ่มผู้ใช้แรงงานในชุมชน ซึ่งยาเสพติดนั้นรับมาจากเพื่อนหลานชาย หลังหลานชายถูกตำรวจเข้าจับกุมในคดียาเสพติด เมื่อ2 ปีก่อน โดยป้าณีอ้างว่า ตัวเองขายยาเสพติดในชุมชนมาได้5-6 เดือน เเละเลิกขายไปเมื่อ1เดือนก่อนที่ตำรวจจะนำหมายศาลมาจับกุม ยอมรับว่าส่วนตัวกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี แต่ก็มีเหตุผลความจำเป็นต้องใช้เงินในการใช้จ่ายเเละเลี้ยงหลาน พร้อมรับรู้ว่าที่ทำไปเป็นสิ่งไม่ดี เเละผิดกฎหมาย
ขณะที่ พล.ต.ต.กฤษณ์ บอกภายหลังเข้าตรวจค้น ว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ระงับยับยั้งการแพร่ระบาดยาเสพติดในชุมชน และได้ร่วมทำข้อมูลกับ ปปส. การเข้าตรวจค้น พื้นที่26เป้าหมายซึ่งในพื้นที่พบข้อมูลว่า มีผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญที่เคยถูกจับกุม และตัวยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเขาบิน แต่สั่งการผ่านคนในครอบครัว4-5คนให้ค้ายาเสพติด และมีการกระทำผิดซ้ำรวมๆกันกว่า30ครั้ง บางรายกระทำผิดซ้ำ7-8ครั้ง จึงเข้าข่ายการเป็นผู้มีอิทธิพล เพราะจะมีพฤติการณ์ในการข่มขู่ผู้ค้ารายย่อยอยู่เสมอ
โดยพื้นที่ชุมชนบางบัวที่เข้าตรวจค้นจับกุมในวันนี้ ก็เป็นหนึ่งในเครือข่ายที่รับนาเสพติดมาจากครอบครัวดังกล่าว จึงถือเป็นการทำลายเครือข่ายตัดวงจรการค้าระดับล่าง ที่จะทำให้ส่งผลกระทบกับชุมชนและเยาวชนน้อยลง และผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ในชุมชนบางบัว ทำมานานแล้ว และยังคงค้ายาเสพติดกันอยู่จริงในพื้นที่
