ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในอ.เมือง จังหวัดสระบุรี ซึ่งเปิดเป็น บริษัทเลี้ยงผึ้งผลิตน้ำผึ้ง และบ้านพักอาศัยรวม 6 หลัง ซึ่งจากข้อมูลพบว่า เป็นของนายสันติ เชิงสมอ หรือไอซ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดีร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองฯ และสมคบเพื่อกระทาความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยจากการเข้าตรวจค้น พบ พ่อของนายสันติ และเครือญาติ อาศัยอยู่ภายในบ้าน แต่ไม่พบตัวนายสันติ โดยพ่อของนายสันติ อ้างว่า ไม่ได้เจอกับลูกชาย มาหลายปีแล้ว และจากข้อมูลพบว่า เครือญาติดังกล่าวมีความเชื่อมโยงในการถือครองทรัพย์สินแทนผู้ต้องหา
จากนั้นได้นำเข้าตรวจค้น โรงงานน้ำผึ้ง และบ้านพัก พบ เงินสด และทองคำ จำนวนมาก ซึ่งญาติของนายสันติ อ้างว่า ได้มาจากการทำธุรกิจค้าขายออนไลน์ ขณะที่ พ่อของนายสันติ อ้างว่า โรงงานน้ำผึ้ง ทำมากว่า 30ปี และบ้านพักอาศัยใช้เงินกู้ยืมมาปลูกบ้าน โดย จากการเข้าตรวจค้นเฉพาะจุดนี้ พบทรัพย์สินทั้งบ้าน รถยนต์หรู ทองคำ และเงินสด จำนวนมาก
สำหรับ นายสันติ หรือไอซ์ ผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายของการเข้าจับกุมครั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่า เป็นตัวการใหญ่ในการสั่งการ ทั้งสั่งยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และสั่งการในการขนยาเสพติด รวมถึงมีอิทธิพลในการสั่งผลิตยาเสพติดจากประเทศเพื่อบ้านแล้วนำเข้ามาได้โดยตรงด้วย และมักจะฟอกเงินด้วยการซื้อรถหรู ส่งไปประเทศเพื่อนบ้าน และตรวจสอบเส้นทางการเงินตั้งแต่ปี2560 พบมีเงินหมุนเวียน 122 ล้านบาท ซึ่งการเข้าจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุม นายขจรศักดิ์ เจ็นเชี่ยวชาญ หรือ เต้ย กับ พวกรวม 5 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า กว่า 3.5ล้านเม็ด ที่ อ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี เมื่อปี 2562 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สืบสวนขยสยผลจนทราบว่า มีนายสันติ เป็นผู้สั่งการของเครือข่ายนี้ และเป็นเครือข่ายเดียวกับนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่ชื่อหนูเฉินด้วย
ขณะเดียวกันการเข้าปฏิบัติการยุทธการสยบไพรี 64/12 ทวงคืนทรัพย์แผ่นดิน ในครั้งนี้ ได้เข้าปฏิบัติการพร้อมกัน30จุดทั่วประเทศ ซึ่งนอกจากเป้าหมายสำคัญที่ จ.สระบุรีแล้ว ยังมีที่ จ.ชลบุรี สามารถจับกุม น.ส.กมลเนตร เจียมเกต ภรรยานายสันติ ใน ข้อหา ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันต้ังแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน โดยจากข้อมูลการสืบสวนทราบว่า ทำหน้าที่ทำธุรกรรมทางการเงินให้เครือข่ายนายสันติ