พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) แถลงข่าวการจับกุมกลุ่มคนร้าย หลอกลวงประชาชนกว่า 100 คน ให้ร่วมลงทุนโครงการซื้อขายทำกำไรระยะสั้นของหุ้นต่างประเทศ (ชอร์ทหุ้น) รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527
จากกรณีที่มีผู้เสียหายกว่า 100 คน เดินทางเข้าร้องเรียนกับ ศปอส.ตร. ว่าถูกกลุ่มคนร้ายหลอกลวง ให้ลงทุนชอร์ทหุ้น หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนสอบสวน พบว่ากลุ่มคนร้าย คือ นายจิตรภณ นิศารัตน์, นายศรฉัตร กล่ำแสง และ นายพีระยุทธ อาจอำนวย โดยนายศรฉัตร และ นายพีระยุทธ อ้างตนว่า เป็นผู้ประสานงานโครงการและเป็นผู้ดูแลโปรแกรมการลงทุน ได้ประกาศชักชวนผู้เสียหายให้เข้ามาเป็นสมาชิก ร่วมลงทุนกับกลุ่มเอนบี (NEW BLOOD) ที่บริหารงาน โดยนายจิตรภณ เป็นการนำเสนอโครงการ เพื่อนำเงินไปชอร์ทหุ้นต่างประเทศ (การซื้อขายทำกำไรระยะสั้นของหุ้น) ซึ่งอ้างว่าจะมีผู้บริหารระดับประเทศทั่วโลกไปดำเนินการซื้อขายหุ้น ในช่วงตลาดหุ้นของวอร์สตรีทปิดทุกวัน โดยเสนอผลตอบแทนการลงทุนในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน ตลอดชีวิตและสามารถตกทอดเป็นมรดกได้ และยังได้ผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ จากการชอร์ทหุ้นอีกเดือนละ 1 ครั้ง โดยเป็นการลงทุนขั้นต่ำ 300,000 บาท ประกอบกับบุคคลทั้ง 2 ได้อ้างว่า นายจิตรภณ เป็นนายทหารยศพันตรี และเป็นลูกของรองประธานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และมีบุคคลสำคัญของประเทศซึ่งอยู่ในรัฐบาลคอยหนุนหลังอยู่จึงทำให้มีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก ต้อมาได้มีการจ่ายเงินปันผลที่เป็นดอกเบี้ยตอบแทนให้ผู้ลงทุน ระยะเริ่มแรก ประมาณ 3-4 เดือนจริง แต่หลังจากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้ขอเลื่อนจ่ายเงินปันผลออกไปอีกเรื่อย ๆ และปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วหลบหนีไป
ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนต่อศาลอาญา ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่น, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง และร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ศปอส.ตร. สามารถติดตามจับกุม นายจิตรภณ ได้ขณะหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในอพาร์ทเม้นย่านพระโขนง กทม. จึงนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม
ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าจับกุมผู้ต้องหาที่มีการฉ้อโกงในลักษณะนี้ โดยที่ผ่านมามีการจับกุมอย่างเข้มงวด เบื้องต้นพบสถานการณ์ดีขึ้น แต่ก็ยังคงเกิดปัญหาขึ้นอยู่ จึงอยากเตือนประชาชนที่จะลงทุนให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนลงทุนให้ดี ทั้งนี้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองที่กลต. ขณะที่อีกเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการคือการคืนทรัพย์สินที่ถูกฉ้อโกงมา ไปยังผู้เสียหาย ซึ่งส่วนนี้ต้องอาศัยกระบวนการยุติธรรมมาช่วยในการริบทรัพย์สินคืนจากผู้ต้องหา