.jpg)
นายอิทธิพล คุณปลี้ม รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานในพิธีบวงสรวงต้อนรับทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว กลับสู่ประเทศไทย โดยมี นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วยคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เข้าร่วมในพิธี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก 2 ทับหลัง ได้แก่ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ได้รับการส่งคืนกลับจากสหรัฐอเมริกามาสู่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา กระทั่ง นายพนมบุตร จันทรโชติ รองอธิบดีกรมศิลปากร เดินทางไปรับ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จากคาร์โก้ สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นได้เดินทางมาถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เจ้าหน้าที่จึงนำขึ้นแท่นเพื่อทำพิธีบวงสรวง ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์ และ นายอิทธิพล ได้มาเป็นประธานพิธี เปิดหีบห่อบรรจุทับหลัง 2 รายการ
นายอิทธิพล กล่าวว่า รัฐบาลไทย ได้รับมอบทับหลังปราสาทหนองหงส์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยมีพิธีส่งมอบโบราณวัตถุ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ณ นครลอสแอนเจลิส ระหว่างสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา (Homeland Security Investigation – HSI) ผู้ส่งมอบ และกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ผู้รับมอบแทนกรมศิลปากรในนามราชอาณาจักรไทย พร้อมทั้งดูแลในการส่งทับหลังทั้งสองรายการ ออกจากท่าอากาศยานนครลอสแอนเจลิสถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. และเคลื่อนย้ายมายังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สหรัฐคืนทับหลังปราสาทหนองหงส์-ปราสาทเขาโล้นให้ไทย นิทรรศการ”วันอนุรักษ์มรดกไทย” 1 ปีมีหนเดียวที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ทั้งนี้ หลังจากพิธีบวงสรวงจะดำเนินการตรวจสอบโบราณวัตถุ และนำทับหลังทั้งสองรายการ เพื่อจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน ตนได้เรียนเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มาเป็นประธานในพิธีรับมอบโบราณวัตถุอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดให้ชมนิทรรศการ “ทับหลังปราสาทหนองหงส์ และปราสาทเขาโล้น กลับคืนสู่ประเทศไทย” ให้ประชาชนเข้าชมเป็นเวลา 3 เดือน ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
สำหรับ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ได้ถูกลักลอบนำออกไปจากประเทศไทย ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลาประมาณ 50-55 ปี ซึ่งทางการไทยใช้เวลาในการประสานดำเนินการ ทับหลังทั้ง 2 รายการ เป็นเวลา 5 ปี จนได้กลับคืนสู่ประเทศไทย
