นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า, นางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า, นานพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.นครปฐม เดินทางมาที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวง6 (ปทุมวัน) เพื่อฟังคำสั่งคดีกรณีถูกกล่าวหาร่วมกระทำผิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ในการชุมนุมแฟลชม็อบ บริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 62
นายปิยบุตร เปิดเผยว่า วันนี้ยังไม่รู้ว่าศาลจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร และ จะพิจารณาไปในแนวทางไหน ซึ่งตนเองและพวกพร้อมที่จะปฎิบัติตามคำสั่ง ส่วนรายละเอียดหลังจากนี้จะให้ทนายความเป็นผู้ให้รายละเอียด
ด้าน นายธนาธร กล่าวว่า สิ่งที่เกิดกับนิสิตนักศึกษา ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องความถูกต้องความเป็นธรรมให้สังคม มีการบังคับใช้กฎหมายมาทำให้ประชาชนหวาดกลัวที่จะลุกขึ้นสู้กับความอยุติธรรมในสังคม ยืนยันประชาชนและพวกเราทุกคนมีขวัญและกำลังใจดี และเรียนว่าการที่รัฐบาลคิดว่าการเด็ดหัวแกนนำได้ เอาแกนนำเข้าคุกได้เรื่องจะจบ การตั้งโจทย์ว่าตนเองและพรรคก้าวหน้าอยู่เบื้องหลัง เป็นคนยุยงปลุกปั่นการชุมนุมของนิสิตนักศึกษา เป็นการตั้งสมมุติฐานที่ไม่ถูกต้อง วิธีแก้ปัญหาด้วยการเอาแกนนำเอาคนที่อยู่เบื้องหลังออกไปให้หมด ทุกอย่างก็จะกลับมาแบบเดิมเพราะโจทย์มันผิด เพราะคนที่ออกมาเคลื่อนไหวมาด้วยเจตนารมย์ เป็นสิทธิเสรีภาพของเขาเอง ต่อให้ไม่มีตนเอง พวกเขาก็ยังสู้ต่อ ยังคงชุมนุมเรียกร้องต่อ การจับพวกตนเองเข้าคุกไม่ได้ทำให้ปัญหาจบ แต่จะยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความโกรธแค้นบานปลาย พร้อมยืนยันว่าไม่ว่าวันนี้อัยการศาลจะมีคำสั่งคดีอย่างไร ก็ไม่เป็นไรเชื่อว่าประชาชนเข้าใจ ตนเองและพวกยังเข้มแข็งและมีขวัญกำลังใจดี ขอให้ทุกคนหน้าที่พลเมืองเรียกร้องประชาธิปไตยกลับคืนมา
สำหรับคดีดังกล่าวทางทนายความระบุว่า พนักงานอัยการคดีศาลแขวง6 (ปทุมวัน) มีความเห็นสั่งฟ้องตามพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวันที่ส่งฟ้อง 5 ข้อหาและได้นำตัวส่งฟ้องต่อศาลซึ่งศาลอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะรับฟ้องหรือไม่