นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) เข้าพบเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ถ้อยคำภายหลังเข้ายื่นหนังสือเพื่อขอให้พิจารณารับกรณีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา” หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ เป็นคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายนิติธร กล่าวว่า การเข้าให้ถ้อยคำเป็นกระบวนการปกติหลังการยื่นคำร้องกรณีดังกล่าว ส่วนความคาดหวังให้มองว่าพอดีเข้า เป็นลักษณะคดีพิเศษอยู่แล้ว แม้จะยื่นว่าด้วยคดีอาญา ซึ่งวันนี้จะเข้าอธิบายว่าประเด็นไหนมีความซับซ้อน เชื่อมโยงกับอะไร นายนิติธร มองว่า ขณะนี้หลักฐานเพียงพอแล้วกับประเด็นที่ว่าเป็นมากกว่าเรื่องของประมาทและเรื่องของอุบัติเหตุ มีหลายประเด็นของยกตัวอย่าง เช่น หากเราได้เสื้อผ้าของแตงโม และ ผู้ที่ถูกกล่าวหาหรือบุคคลบนเรือครบ และได้ตรวจร่างกายก็จะสามารถบอกได้ว่าบาดแผลของแตงโมกับคนที่อยู่บนเรือมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันหรือไม่ รวมถึงการตรวจใต้พื้นน้ำ กรณีที่บอกว่าพบดินและทรายถ้าหากตรวจจะสามารถรู้ได้ทันทีว่าใช้จุดนั้นหรือไม่ รวมถึงปริมาณต่างๆที่เข้าไป บ่งบอกได้ว่า คนที่จมน้ำไปสามารถบ่งบอกได้กับน้ำลึกแค่นั้นปริมาณสิ่งของในร่างกายมีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งก่อนหน้านี้พบว่าแตงโมไปรับประทานอาหารก่อน โดยเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ยินแหละไม่ได้เห็น เป็นเรื่องที่เปิดเผยได้อยู่แล้ว เหมือนที่บอกให้มีการชันสูตรพลิกศพรอบที่ 2 ที่พบบาดแผลเป็นลักษณะก้างปลาบริเวณขาด้านหลัง ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่เห็นในครั้งแรกที่มีการพูดถึง และเป็นเรื่องสำคัญทั้งนั้น
นายนิติธร ยังกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการพิสูจน์ประสิทธิภาพการทำงานของตำรวจ ของพนักงานสอบสวนเพราะขณะนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องยืนยันในลักษณะของการให้การที่ปฏิเสธ ในขณะที่ข้อสงสัยเป็นอีกแบบหนึ่ง มีข้อน่าสงสัยมากกว่าที่ผู้เกี่ยวข้องเล่า ส่วนการปิดคดี นายนิติธร กล่าวว่า ภาพที่ยืนยันว่าแตงโมตกเรือและภาพที่ถูกกระทำจนเกิดบาดแผล ยังไม่มี เพราะฉะนั้นแค่ 2 ประเด็นนี้ยังไม่สามารถปิดคดีได้หากปิดคดีก็จะก็ต้องดำเนินคดีกับตำรวจเหมือนกัน
ส่วนเป็นกังวลหรือไม่ว่าสิ่งที่เรียกร้องไปจะอยู่ในสำนวนของตำรวจแล้ว เพียงแค่ยังไม่เปิดเผยให้สื่อมวลชนได้เห็น นายนิติธร ระบุว่า “ผมเป็นนักกฎหมาย ผมทำคดีวิสามัญฆาตกรรม ผมทำคดีซ้อมทรมาน ฉะนั้นรู้ดีว่าอะไรพูดได้อะไรพูดไม่ได้เพราะรู้ดีว่าอะไรเป็นการเบี่ยงประเด็นเพื่อที่จะไปอีกประเด็นหนึ่งและอะไรคือการ ปักหมุดของประเด็น มาแลกเปลี่ยนกันก็ได้ จะได้ชี้ให้เห็น เพราะฉะนั้นไม่หนักใจ ผมว่าคนที่หนักใจคือตำรวจไม่ใช่ผม”
ทั้งนี้ มีความรู้สึกอย่างไรเห็นว่าคนบนเรือจะออกมาฟ้องกลับ คนที่ออกมาพูดหรือวิเคราะห์ นายนิติธร ประกาศชัด ว่า “ก็มาดิ มาเลย จะมาแบบไหนก็ได้ จะมาฟ้องกลับ จะมาข่มขู่แบบไหนมาเลย ผมเชิญทุกคน”
