วันที่ 15 ต.ค.63เวลา ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.)แถลงแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม ที่มีการชักชวนรวมตัวบริเวณแยกราชประสงค์ ช่วงเย็นวันนี้ (15 ต.ค.)ว่า การชุมนุมจะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ฐานฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร โดยขอให้งดการรวมตัวชุมนุม หรือเคลื่อนย้ายคนอย่างเด็ดขาด ซึ่งตามขั้นตอนปฏิบัติ หากมีการรวมตัวชุมนุม เจ้าหน้าที่จะมีการแจ้งเตือนก่อน พร้อมให้เวลาผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ แต่หากฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องมีการเข้าควบคุมตัวตามกฎหมาย แต่เชื่อว่า เมื่อมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ประชาชนจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และจากนี้ตำรวจจะมีการตั้งจุดตรวจความมั่นคง ให้เป็นไปตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ โดยอาจเกิดผลกระทบกับประชาชนทั่วไปบ้าง ขณะเดียวกัน ตั้งแต่เวลา 13.00 น. จะมีการเปิดกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง หรือ กอร.ฉ.โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ซึ่งจะมีการเชิญหน่วยร่วมปฏิบัติ ทั้งตำรวจ ทหาร พลเรือน เข้าหารือแนวทางปฏิบัติ พร้อมยืนยันว่า การชุมนุมมั่วสุมเกิน 5 คน ที่ไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง สามารถทำได้ พร้อมระบุว่า ขณะนี้ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ยังคงบังคับใช้เฉพาะ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่หากสถานการณ์ลุกลาม ไปยังจังหวัดอื่น ๆ ก็อาจมีการพิจารณาประกาศเพิ่มเติม
“ ตำรวจมีแผนการปฏิบัติอยู่แล้วมีการซักซ้อมแผน การข่าวก็มีอยู่แล้วว่าแกนนำเป็นใคร และมีวิธีปฏิบัติอย่างไรกับแกนนำที่กระจัดกระจายอยู่ ถ้าเป็นโรคก็เรียกว่า “รักษาตามโรคตามอาการ” เราคิดว่าเราเป็นหน่วยงานที่มีความชำนาญอยู่กับเรื่องนี้มาเกิน 10 ปี ตอนนี้เรามียาที่ชื่อพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ยาตัวนี้เชื่อว่าจะเป็นยารักษาอาการที่อาจจะพัฒนาให้ร้ายแรงได้ เชื่อมั่นว่าจะเป็นเครื่องมือในการทำงานระงับยับยั้งเหตุการณ์ต่างๆได้ ขณะเดียวกันตำรวจจะใช้อุปกรณ์ประกอบการดูแลประชาชนตามหน้างาน เชื่อว่าประชาชนที่มาชุมนุมแบบนี้ไม่ได้ใช้ความรุนแรง และเชื่อว่าเหตุการณ์จะไม่ลุกลามบานปลายเหมือนฮ่องกง “ พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าว
โฆษก ตร.ยืนยันด้วยว่า จากการเข้าจับกุมผู้ร่วมชุมนุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สามารถควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุม จำนวน 22 คน โดยมี 4 คน เป็นแกนนำ ได้แก่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน / นายอานนท์ นำพา / นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ และ นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ส่วนอีก 22 คน เข้าข่ายฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ โดยในรายชื่อทั้งหมด ยังไม่มีนายภานุพงษ์ จาดนอกหรือ ไมค์ ระยอง รวมอยู่ด้วย ซึ่งหลังจากนี้หากพบผู้ใดกระทำความผิด หรือมีหมายจับ ก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป ขณะเดียวกันตำรวจยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของแกนนำชุดใหม่ที่จะมารับช่วงต่อจากแกนนำที่ถูกจับกุมตัว หากมีการเคลื่อนไหวชักชวนคนมาร่วมชุมนุมก็จะต้องถูกดำเนินคดี ส่วนแกนนำที่มีตำรวจมีการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดตามหมายจับ
ส่วนคำสั่งช่วยราชการข้าราชการ 3นายประกอบด้วย พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม
รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.น.1 และ พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์
ผบก.อคฝ.มาปฏิบัติรชการที่ ศปก.ตร. นั้น ขณะนี้ยังไม่พบความผิด แต่คำสั่งดังกล่าวเป็นการเรียกมาสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าตำรวจทั้ง 3 นาย มีการปฏิบัติตามแผนรักษาความสงบเรียบร้อยหรือไม่ ส่วนจะต้องมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงกว่านี้ต้องรับผิดชอบหรือไม่ หากพบข้อบกพร่องหลังจากนี้ก็ต้องดำเนินการตามระเบียบขั้นตอน