พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญคนร้ายที่พยายามใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจขณะลักลอบตัดไม้พะยูง พื้นที่ สภ.เพี้ยราม จ.สุรินทร์ ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เพี้ยราม จ. สุรินทร์ ว่าเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2561 เวลา 21.00 น. ได้รับแจ้งจากเจ้าอาวาสวัดบ้านกู่ ว่ามีคนร้าย จำนวน 11 คน ใช้รถยนต์ปิคอัพจำนวน 3 คัน มาลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตวัดบ้านกู่ หมู่ 6 ต.เพี้ยราม อ.เมือง จว.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและชุดสายตรวจพร้อมกับชุด ปทส. ภ.จว.สุรินทร์ ได้สนธิกำลังกับ จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.2 และ จนท.ทหาร มทบ.25 เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อมาถึงได้พบกลุ่มคนร้ายหลายคนกำลังใช้เลื่อยยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ตัดต้นพะยูงอยู่ จากนั้น คนร้ายที่รออยู่ในรถยนต์กะบะได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถเจ้าหน้าตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงจากรถหมอบกับพื้นแล้ว และใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ ป้องกันตัว กระสุนปืนถูก นายฤทธิไกร ทรัพย์สถิต อายุ 30 ปี ถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุ ส่วนรถคันที่คุ้มกันของคนร้ายขับหลบหนีไปได้ จำนวน 1 คัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด จำนวน 5 คน
ในส่วนของคนร้ายอีก จำนวน 5 คน ที่ได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการไล่ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีและสืบสวนหาข่าวเพื่อติดตามนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พนักงานสอบสวนจึงได้ร่วมกับสหวิชาชีพ พนักงานอัยการ ปลัดอำเภอ แพทย์ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ชันสูตรพลิกศพ นายฤทธิไกร ฯ และตรวจยึดอาวุธปืน พร้อมปลอกกระสุนปืน และของกลางจำนวนหลายรายการเพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่าในคดีดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้ทำสำนวนการสอบสวนแบ่งเป็น 4 สำนวน คือ
1.สำนวนคดีชันสูตรพลิกศพการเสียชีวิตของ นายฤทธิไกรฯ
2. สำนวนคดีที่คนร้ายร่วมกันทำไม้หวงห้าม(ไม้พะยูง) โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
3. สำนวนคดีพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่ง คนร้ายตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ในความผิดฐาน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ , พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ และ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
4. สำนวนคดีฆ่าผู้อื่นโดยอ้างเหตุป้องกันจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่วิสามัญผู้ตายตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยอ้างเหตุป้องกันตัวเจ้าพนักงานจากการปฏิบัติหน้าที่
พร้อมกันนี้ ตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงทางคดีเป็นสำคัญ