อาชญากรรม

ตร.รวบผู้ต้องหา ลักลอบขนแรงงารเมียนมาร์ เข้าไทยผิดกฎหมาย เล็งขยายผลเพิ่ม

ตำรวจชุดเฉพาะกิจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทหารกองกำลังสุรสีห์ กระจายกำลังค้น 7 จุด ในพื้นที่อำเภอไทรโยค ซึ่งทั้งหมดเป็นบ้านของอดีตผู้ต้องหาที่เคยกระทำความผิดลักลอบขนแรงงานประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย

1 ในเป้าหมายที่ตำรวจเข้าตรวจค้น ยอมรับว่าเมื่อปี 2553 เคยลักลอบนำคนเมียนมาร์เข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมาย อ้างว่าเป็นการพาเพื่อนเข้ามาเที่ยว จึงเชิญตัวมาสอบปากคำในฐานะพยานเพื่อหาความเชื่อมโยงกับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่

โดยปฎิบัติการวันนี้เป็นการเข้าค้นต่อเนื่อง 2 วัน ตามแผนการป้องปรามของตำรวจไม่ให้มีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามา

ขณะเดียวกันตำรวจก็จับผู้ต้องหาในขบวนการลักลอบขนแรงงานได้ 1 คน คือนายพันธุ์ภัทร พศธนัตถ์ชัย หรือ กนก ซึ่งถูกออกหมายจับเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ในข้อหาให้การสนับสนุนนำแรงงานเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย และข้อหาค้ามนุษย์ จากเหตุการณ์รถกระบะที่ลักลอบขนแรงจำนวน 34 คน เข้ามา และพลิกคว่ำในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี

โดยให้การยอมรับว่าเคยลักลอบขนแรงงานจริง โดยมีนายหน้าติดต่อว่าจ้างให้ตนเองไปขับเรือรอรับคนที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านที่รออยู่ โดยพาไปส่งปลายทางตามจุดต่างๆที่ตกลงกันไว้ ซึ่งได้ค่าจ้างหัวละ 1,500 บาท ทำมาประมาณ 5-6 ครั้ง ครั้งล่าสุดคือเดือนกรกฎาคม 2563

ขณะที่ตำรวจ ระบุว่า การเข้าตรวจค้นต่อเนื่อง 2 วัน เป็นหนึ่งในแผนสกัดกั้นขบวนการลักลอบน้ำแรงงานเข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเมียนมาร์ที่มีความรุนแรง ทำให้แรงงานต่างพยายามลักลอบเข้ามาอาศัยในประเทศไทย และจากข้อมูลการสืบสวนก็พบว่าในพื้นที่ยังมีขบวนการลักลอบอีกจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งขยายผลว่ามีความเชื่อมโยงกับข้าราชการ หรือตำรวจ ด้วยหรือไม่ หากพบมีการกระทำความผิดก็จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด

ทั้งนี้ตำรวจ และทหาร ในพื้นที่ก็ได้พยายามคุมเข้มตามแนวชายแดนธรรมชาติที่กลุ่มคนเหล่านี้มักอาศัยช่วงว่างในช่วงกลางคืนลักลอบขนคนเข้ามาทั้งทางน้ำและทางบก เพื่อหลบเลี่ยงด่านความมั่นคง

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *