อาชญากรรม

จนท.ขยายผล พบ 11 จนท.อาสาสมัคร ล็อกโควตาฉีดวัคซีน

พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ เปิดเผยถึงการแจ้งความขบวนการ แอบบันทึกข้อมูลผู้รับบริการฉีดวัคซีนโควิด เพื่อได้รับสิทธิ์ในการฉีดวัคซีนเพื่อเรียกรับเงิน ว่า เมื่อประมาณ 7 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของทางศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ สังเกตุพบความผิดปกติ ในการบันทึกข้อมูลของผู้รับบริการฉีดวัคซีนโควิดในระบบ ที่เข้ามามากผิดปกติ และบันทึกข้อมูลในช่วงเวลา 22.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ เจ้าหน้าที่เลิกงานหมดแล้ว  ในระยะหลัง ทางศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ไม่มีนัดฉีดวัคซีนแบบกลุ่มองค์กร ยกเว้น ขององค์กรของ กระทรวงต่างประเทศที่ขอให้ฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป  แต่กลับพบว่ามีการคีย์ข้อมูลของผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข้ามาจำนวนมาก จึงเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลมาโดยตลอด

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา  พบว่า มีการบันทึกข้อมูลของผู้เข้ารับการฉีดวัคซีน เข้ามามากถึง 2,000 คน ก็มีการหารือกันว่า จะยกเลิกนัด กลุ่มคนทั้งหมดนี้ หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่พิจารณาแล้ว จะใช้วิธีการ “ตกเหยื่อล่อปลา” ปล่อยให้ ผู้ที่ลงทะเบียนมารับการฉีดวัคซีน  แล้วทำการยกเลิกการฉีดวัคซีนไป ประมาณ 800 คน ในจำนวนนี้ ทำการสกรีนข้อมูลบุคคลแล้ว เหลือประมาณ 300 คนที่มีความผิดปกติ  

เจ้าหน้าที่จึงประสาน ตำรวจ สน.นพวงศ์  ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ เข้ามาทำการสอบสวน  ซักถามข้อมูลจากบุคคลทั้ง 300 คน   ให้การเบื้องต้นว่า ได้ทำการซื้อสิทธิ์มา  เพื่อจะได้ฉีดวัคซีนโควิด ในราคาตั้งแต่ 400-1200 บาท /คน เจ้าหน้าที่จึงขยายผลตรวจสอบ User ที่ใช้ในการคีย์ข้อมูล พบความผิดปกติ จำนวน 11 Use ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่มาช่วยงานภายในศูนย์ฉีดวัคซีน  จึงได้มอบหมายให้ทาง นิติกร ทำการแจ้งความดำเนินคดี กับกลุ่มขบวนการทั้งหมดแล้ว

 

 

ผู้การ ตร. รถไฟ ระบุ  มิจฉาชีพแอบบันทึก ข้อมูลจองคิวฉีดวัคซีน นำไปขายต่อหัวละ 500 – 1,000 บาท ตรวจสอบพบมีการทำมาแล้ว 4 วัน วันละ 1,500 สิทธิ

 

พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์  ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ(ผบก.รฟ.) เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดในการแฮกข้อมูลผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เข้ามาฉีดวัคซีนที่ ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ หลังจาก พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ทราบเรื่องว่าไม่ได้มีการนัดหมายจึงประสานทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้เข้าตรวจสอบต่อมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งเร่งรัดดำเนินการจึงนำพนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจรถไฟ ว่าพนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้ว 7 ปาก ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์ พนักงานบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์ โดยจะเข้าสอบสวนปากคำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกเพิ่มเติม โดยการสืบสวนสอบสวนมีความซับซ้อนจึงเตรียมตั้งคณะพนักงานสอบสวนโดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ชาญณรงค์ ขนาดนิด รองผบก.รฟ.ประสานการทำงานร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.)และกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)เพื่อหาแนวทางการสืบสวนและต้องตรวจข้อมูลความผิดปกติในยูสเซอร์ รวมทั้งติดตามหาผู้กระทำความผิด โดยเบื้องต้นหากพิสูจน์หาต้นตอผู้กระทำความผิดได้ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ก่อน

พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่าก่อนหน้าจะรับทราบข้อมูลจากการสังเกตพบว่าบริเวณประตู 4 ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อมีผู้นัดหมายผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ดังกล่าวมายืนรอแน่นบริเวณประตู แต่เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไปทำให้ผู้ที่จองผ่านเครือข่ายฯต่างแยกย้ายหลบหนีไปส่วนใหญ่พบว่าเป็นพนักงานบริษัท และพนักงานโรงงาน ซึ่งสันนิษฐานว่ามีหลายกลุ่มที่ร่วมกระทำความผิด ทั้งนี้ผู้ที่ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน หรือศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ จะกันไว้เป็นพยาน

 

 

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *