นายปรีชา ใคร่ครวญ พร้อมด้วย นางปณัญชญา สุขพูล หรือเจ๊เกียว และนางสาวพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัชพร้อมนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กองกำกับการ5 กองปราบปราม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีหวย30 ล้าน โดยนายปรีชา ระบุว่า ในวันนี้เดินทางมากองปราบปรามเพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มในสำนวนคดีที่มีผู้ทำให้พยานหลักฐานในคดีกวย30ล้าน หลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งตนได้ตั้งข้อสังเกตว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นหลักฐานสำคัญ เช่น สัญญาณโทรศัพท์แสดงจุดที่อยู่ ข้อมูลการสนทนาผ่านไลน์ แต่เหตุใดจึงหลุดออกมาได้ แม้แต่ตนเองที่เป็นเจ้าของข้อมูล เคยทำหนังสือไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ยังถูกปฏิเสธ อ้างว่าต้องให้ทนายความและพนักงานสอบสวนทำหนังสือมาขอ
ส่วนความคืบหน้าในคดีหวย30 ล้าน ที่ทางศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้พิพากษายกฟ้องในชั้นต้นนั้น ยืนยันว่าจะใช้สิทธิตามกระบวนกฎหมาย ในการขอยื่นอุทธรณ์ต่อไป พร้อมย้ำว่าความจริงคือความจริงและล็อตเตอรี่เป็นตนเอง นอกจากนี้ครูปรีชา ได้กล่าวเพิ่มเติม ในกรณีที่ตนได้ ยื่นเรื่องขอระงับการถอนเงินรางวัล30 ล.ออกจากบัญชีกับธนาคาร ว่า ไม่น่าจะเป็นการละเมิดคำสั่งของศาลแพ่ง แต่เป็นสิทธที่ตนสามารถทำได้ตามกฎหมาย ส่วนประเด็นที่ตนถูกกล่าวหาว่านำเลขที่บัญชีและเบอร์โทรศัพท์ของร.ต.ท.จรูญ มาเผยแพร่นั้น ขอยืนว่าไม่ได้เป็นเผยแพร่ แต่กลับมองว่าเลขบัญชีและเบอร์โทรศัพท์ไม่น่าจะเป็นข้อมูลความลับ เนื่องจากทางธุรกิจก็สามารถเปิดเผยได้ แต่ฝ่ายตรงข้าม กลับนำประเด็นนี้ใช้เป็นข้ออ้างในการปิดบัญชีและขอถอนเงินรางวัลทั้งหมดออกจากธนาคาร
ขณะเดียวกันด้านเจ๊เกียว และเจ๊พัชร ที่เดินทางเข้าพบตำรวจตามหมายเรียกเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่ร.ต.ท.จรูญแจ้งความครูปรีชาและพวกในข้อหาแจ้งความเท็จ ยืนยันว่าหวย30 ล้านเป็นของครูปรีชาและตนจะยังคงเป็นพยานให้กับฝ่ายนี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด ร.ต.ท.จรูญจึงรีบถอนเงินรางวัลออกจากบัญชี ซึ่งหากมั่นใจว่าเป็นเจ้าของเงินจริง รอให้คดีถึงที่สุดค่อยถอนเงินก็ย่อมได้
