นางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ ภรรยานายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ , นายปียกร ปรมีศณาภรณ์ และน.ส.โชติรส ปรมีศณาภรณ์ บุตรชายและบุตรสาวและน.ส.วิลาวรรณ์ คงบุตร ทนายความ นายบุญช่วย เจริญสถาพร ร่วมกันแถลงข่าวเปิดใจครั้งแรกชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุยิงกันในศาลจังหวัดจันทบุรี เป็นเหตุให้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ โจทก์, นายวิจัย สุขรมย์ ทนายโจทก์ และ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ พร้อมนำเอกสารแถลงความยาว 23 แผ่น พร้อมแผนผังภาพแสดงเหตุการณ์ตั้งแต่ปี 2515 จนกระทั่งถึงวันเกิดเหตุ และประวัติส่วนตัวนายบัญชา มาแสดงต่อสื่อ
น.ส.วิลาวรรณ์ คงบุตร ทนายความ ที่ได้ร่วมรับผิดชอบทำคดีที่ดิน ได้สรุปข้อเท็จจริงว่า คดีระหว่าง นายบุญช่วย เจริญสถาพร และ น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิธ ภรรยา พล.ต.ต.ธารินทร มี 4 สำนวนที่ น.ส.เขมจิรา ฟ้อง นายบุญช่วย ศาลได้ยกฟ้องทั้งหมด ส่วน 3 สำนวนที่ นายบุญช่วย ฟ้องกลับ ศาลรอสืบพยานและนัดฟังคำพิพากษา โดยในการทำคดีข้อพิพาททางแพ่งเกี่ยวกับที่ดิน นายบัญชา ยังไม่ได้เข้ามาตั้งแต่ต้น ซึ่งครั้งแรก นายบุญช่วย ได้แต่งตั้ง นายวิจัย สุขรมย์ เข้ามาเป็นทนาย กระทั่งเมื่อปี 2550 ได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างนายบุญช่วยกับลูกชายของ นายสมพล โกศลทนันท์ และนายบัญชา ได้เข้ามาเป็นทนายความ ซึ่งคดีความนั้นก็ถึงที่สุดไปแล้ว ดังนั้นที่ข่าวออกไปว่า นายบัญชา เข้ามามีส่วนเกี่ยวกับคดีแพ่งมรดก จึงทำให้เกิดความเสียหาย โดยเหตุที่เกิดการยิงกัน เป็นเรื่องการฟ้องร้องกันคดีฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ ไม่ใช่คดีพิพาทมรดกที่ดิน ซึ่งเป็นคดีแพ่งที่ผลถึงที่สุดไปแล้วและที่อ้างว่าที่ดินดังกล่าวเป็นธรณีสงฆ์ของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุ ไม่เคยมีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมูลนิธิฯ เข้ามาเลย ส่วนน.ส.เขมจิรา เป็นหลาน ก็รับรองอยู่แล้วว่าที่ดินมีการขายกันจริง ดังนั้นการมาพูดว่าที่ดินเป็นมรดก หรือการโกงมรดก จึงไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก
นอกจากนี้ น.ส.วิลาวรรณ์ ยังได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าได้ช่วยเหลือนายธนากร เสมียนทนาย ที่ยิงปืนใส่พล.ต.ต.ธารินทร์ เพื่อระงับเหตุ หลังเกิดการยิงกันในห้องพิจารณา ยืนยันว่าตนไม่ได้ดำเนินการใดๆ ที่เป็นการพาหนี ซึ่งขณะเกิดเหตุการยิงกัน ตนไม่ได้อยู่บริเวณห้องพิจารณาคดี เมื่อทราบเรื่องจึงได้รีบมาก็พบคนเจ็บแล้ว จึงได้พานายธนากร ขึ้นรถไปที่ รพ.เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับคนเจ็บและผู้เสียชีวิต โดยมาทราบภายหลังที่ รพ. ว่านายธนากร มาบอกว่าเขาเป็นคนยิง พล.ต.ต.ธารินทร์ ส่วนคดีอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ส่วนกรณีคดีของ พล.ต.ต.ธารินทร์ ผู้ที่ก่อเหตุใช้ปืนยิงทนาย 2 คนตายนั้นในทางกฎหมายถือเป็นคดีอาญาอยู่แล้ว แต่เมื่อผู้กระทำควมมผิดเสียชีวิต สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องจึงระงับไป ด้าน นางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ ภรรยานายบัญชา ได้เปิดใจถึงการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงว่า วันเกิดเหตุตนถูกยิง 2 นัด นัดแรกโดนที่ท้อง แพทย์ก็ได้ตัดม้าม เย็บกระเพาะ ตัดลำไส้บางส่วน และอีกนัดโดนยิงที่ขาโดนเส้นเลือดดำที่ขา ซึ่งขณะเกิดเหตุเลือดไหลออกมาก หากแพทย์รักษาไม่ทันต้องตัดขาทิ้ง แต่แพทย์ก็ช่วยไว้ได้ทันด้วยกันทำบายพาส ซึ่งปัจจุบันขาก็มีอาการชา หากใช้กำลังเดินมากๆ โดยเมื่อรักษาตัวที่จันทบุรีแล้ว ก็ย้ายมาที่รพ.ตำรวจ ระหว่างรักษาตัวและครอบครัวก็ยังต้องดูแลเรื่องการจัดงานศพของสามี ที่เพิ่งมีพิธีลอยอังคารไปเมื่อวานนี้(23ธ.ค.) เมื่อเสร็จสิ้นพิธีทั้งหมดแล้วครอบครัวจึงได้มาจัดแถลงข่าววันนี้ เพื่อให้สังคมได้รับทราบในบางส่วนที่มีความบิดเบือน พร้อมยืนยันว่าสามี ไม่เคยทำเรื่องโกงที่ดิน ที่ดินพิพาทได้สู้กันอย่างถูกต้องมาตลอด ตามเอกสารที่ได้ชี้แจงไป และคุณบัญชาไม่เคยได้ผลประโยชน์จากที่ดินนี้เลย ได้รับเพียงค่าจ้าง 20,000 เมื่อปี 2550 ขณะที่ นายปียกร บุตรชาย นายบัญชา ได้แถลงยืนยันว่าบิดาและครอบครัวตนไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ กับทายาทเจ้าของที่ดิน 3,800 ไร่ เพียงแต่บิดาได้เข้ามาเป็นทนายความ อยากขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวด้วย ซึ่งขณะนี้ครอบครัวยังอยู่ในความตกใจและเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น
ด้าน น.ส.โชติรส บุตรสาว ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ โดยระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวปรมีศณาภรณ์ เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ พวกเราทุกคนตกใจกันมาก อยากจะขอความเป็นธรรมจากทุกคน ให้ความเป็นธรรมกับคุณพ่อและครอบครัวของเราด้วย
