วันนี้ เป็นวันแรกที่ กรมการขนส่งทางบก จะไม่อนุญาตให้รถตู้โดยสารปรับอากาศร่วมบริการสาธารณะ ที่มีอายุการงานเกิน 10 ปี มาวิ่งรับผู้โดยสาร ซึ่งบริเวณวินรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นับเป็นอีกหนึ่งจุดที่อาจจะได้รับผลกระทบเพราะเป็นจุดที่มีรถใกล้หมดอายุจำนวนมากที่สุด ถึง 815 คัน
โดยวันนี้นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมเจ้าหน้าที่จาก กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ พล ม.2 รอ. และขสมก. มีกำหนดการที่จะลงพื้นที่อำนวยความสะดวกประชาชน ในการใช้บริการรถตู้โดยสารประจำทาง ตามแผนการรองรับเพื่อการติดตามและแก้ไขปัญหาการเดินรถตู้โดยสารประจำทาง พร้อมประเมินสถานการณ์การเดินรถอย่างต่อเนื่อง ความเพียงพอของจำนวนรถ ไม่ให้ส่งผลกระทบแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ
พร้อมเปิดเผยว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ส่งเจ้าหน้าที่จาก กองตรวจการ ไปสำรวจตั้งแต่ต้นทางรถตู้โดยสาร การให้บริการเป็นไปตามปกติ ยังไม่มีเรื่องร้องเรียน ซึ่งคณะทำงานได้มีการตั้งศูนย์วอลรูม ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อ แก้ปัญหา และการสำรองรถ เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ในเยื้องต้นจะ ให้ผู้ประกอบการรถตู้เส้นทางต่างๆเพิ่มเที่ยววิ่งให้มีความถี่มากขึ้น โดย ผู้ประกอบการ ให้ความร่วมมือกับภาครัฐเป็นอย่างดี ส่วนของการรอคิวการขึ้นรถตู้ ก็จะเป็นไปตามคิวและระยะเวลาการให้บริการ
ส่วน ในช่วงเช้าวันนี้เวลา 10.00 น. ที่ ศาลปกครองจะมีคำสั่ง หลังผู้ประกอบการรถตู้โดยสารยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวและขอไต่สวนฉุกเฉิน ทางกรมการขยส่งทางบกก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาล
โดยข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า รถตู้โดยสาร หมวด1 ที่วิ่งรับผู้โดยสารในกรุงเทพฯ เฉพาะปีนี้ มีรถตู้หมดอายุแบ่งเป็นหมวด1 จำนวน 954 คัน มีทั้งหมด 11 เส้นทาง ประกอบด้วย อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 260 คัน // มีนบุรี 191 คัน // จตุจักร 1 คัน// รังสิต 28 คัน บขส. 125 คัน //รถร่วม ขสมก. 480 คัน และหมวด2 วิ่งข้ามจังหวัด มีจำนวน 379 คันเท่านั้น
