นายอุระ หรือบอล เสนาะ อายุ 29 ปี ชาวจ.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 หมาย ของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 ข้อหา ในข้อหา“ร่วมกันกรรโชกทรัพย์” และหมายจับของศาลจังหวัดจันทบุรี ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 ข้อหา “ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระทำการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอำนาจกระทำการ และร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์” ถูกตำรวจกองปราบปรามติดตามจับกุมตัวได้ ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนนทบุรี
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2560 เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้ต้องหา กับพวกอีก 4 คน ซึ่งถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ ใช้รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน ขับเข้าไปแคมป์คนงานก่อสร้างโกดังสินค้าใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ที่ผู้เสียหายทำงานอยู่ โดยรถคันแรกจอดหน้าทางเข้าแคมป์ ส่วนรถอีกคันหนึ่งจะขับเข้าไปจอดด้านในแคมป์ จากนั้นผู้ต้องหากับพวกลงจากรถทำทีเข้าไปตรวจคนงานก่อสร้างที่เป็นคนต่างด้าว แล้วได้พูดจาข่มขู่ผู้เสียหายให้มอบเงิน จำนวน 12,000 บาท พร้อมกับเรียกเก็บรายเดือนอีกเดือนละ 1,000 บาท จนกว่าก่อสร้างเสร็จสิ้น ผู้เสียหายกลัวจึงได้มอบเงินให้ผู้ต้องหากับพวกไป ผู้เสียหายจึงได้ไปแจ้งความกับ สภ.บางปะกง ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง จึงได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหากับพวกดังกล่าว
ส่วนอีกคดีหนึ่ง เมื่อวันที่ 6 เม.ย.60 เวลาประมาณ 13.00 น. ผู้ต้องหากับพวกอีก 2 คนซึ่งถูกจับกุมไปแล้ว ได้เข้าไปก่อเหตุพยายามกรรโชกทรัพย์ เหตุเกิดในพื้นที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี โดยมีพฤติการณ์ก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน คือ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปพูดจาข่มขู่ผู้เสียหายในแคมป์งานก่อสร้างซึ่งมีแรงงานคนต่างด้าวทำงานอยู่ แล้วเรียกให้ผู้เสียหายมอบเงินให้ แต่ผู้เสียหายไม่หลงเชื่อ และได้ไปแจ้งความกับ พงส.สภ.สอยดาว โดยพฤติการณ์ของทั้ง 2 จะอ้างชื่อว่า “จ่าบอล” มีหน้าที่ทำทีเข้าไปตรวจแรงงานต่างด้าวตามไชต์งานต่างๆ
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวกก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยจะพากันตระเวนไปตามแคมป์งานก่อสร้างที่มีคนต่างด้าวทำงานอยู่ โดยในแต่ละครั้งผู้ต้องหาจะได้รับเงินค่าจ้างประมาณ 500-1000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวส่ง พงส.สภ.บางปะกง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป